ด้วยความสามารถที่เกิดมาเพื่อแฟชั่นโดยเฉพาะ ดีไซเนอร์และเมคอัพอาร์ติสท์คนดังให้สัมภาษณ์แบบไม่ทันตั้งตัวเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ การร่วมงานกันและผลงานบนรันเวย์ของพวกเขา
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วตั้งแต่ที่เราได้เห็น Agyness Deyn นางแบบผมสั้นวิ่งไปมาวิ่งมาในเสื้อยืดที่ตะโกนใส่ทุกคนที่พบหน้าว่า “UHU GARETH PUGH” และ “CAUSE ME PAIN HEDI SLIMANE”
เสื้อยืดนี้เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ Henry Holland นานหลายปีก่อนที่วงการแฟชั่นชั้นสูงจะหยิบมาสวมใส่ เสื้อยืด “Fashion Groupie” ของ House of Holland สร้างความอลหม่านให้แก่วงการแฟชั่นด้วยเสื้อผ้าสไตล์ diktat: ที่แสดงความชื่นชมในตัวแฟนๆ พอๆ กับตัวดีไซน์เนอร์เอง อาจเริ่มจากเสื้อยืดเรียบๆ ดูไม่มีอะไรแต่ Holland กลับสามารถสร้างชื่อให้กับตัวเองในวงการแฟชั่นลอนดอนด้วยผลงานที่ไม่ตามกระแสแต่ว่ามาแรงจนประสบความสำเร็จในธุรกิจเสื้อผ้าที่นำเสนอการมองโลกในแง่ดี คิดบวก และมองแฟชั่นให้เป็นเรื่องสนุกสนาน
“แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วตั้งแต่ที่เราได้เห็น Agyness Deyn นางแบบผมสั้นวิ่งไปมาวิ่งมาในเสื้อยืดที่ตะโกนใส่ทุกคนที่พบหน้าว่า “UHU GARETH PUGH” และ “CAUSE ME PAIN HEDI SLIMANE”
มันเป็นความเพลิดเพลินจากเนื้อแท้ซึ่งสามารถเข้ากันได้อย่างลงตัวกับสไตลิสท์ที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน คู่หูที่ร่วมงานกับ Holland บ่อยที่สุดคนหนึ่งได้แก่ Cher Webb ทั้งสองได้ร่วมงานกันเป็นครั้งแรกเมื่อสามปีก่อนจากงานถ่ายแบบคอลเลคชั่น Resort จากนั้นทั้งสองก็กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในโชว์ที่รวบรวมผลงานตลอดสิบปีของ Holland ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในซีรี่ส์ V&A’s Fashion in Motion แฟชั่นโชว์ในที่สาธารณะที่คืนกำไรให้แก่ผู้ติดตามและสาวกของแบรนด์ให้ได้ชมแฟชั่นกันอย่างจุใจ
Cher Webb: วิธีการทำงานของเฮนรี่มักเป็นอะไรที่สนุก มีสีสันแล้วก็เป็นมิตรมากๆ ค่ะ ทุกครั้งที่เราทำงานกับเขา หลังจากเสร็จงานแล้วคุณจะรู้สึกเลยว่าคุณคือส่วนหนึ่งของทีมจริงๆ ขนาดฉันเองยังอยากจะใส่เสื้อผ้าพวกนั้นบ้างเลย! เพราะทุกอย่างที่เห็นในวันนี้ทำให้ฉันเอาแต่คิดว่า “เดี๋ยวนะลืมเรื่องนั้นไปก่อน ขอลองใส่ชุดนั้นก่อน ชุดนั้นด้วย นั่นก็ด้วย!” แล้วเขาก็มักจะคอยดูแลอยู่ในทุกโชว์และการถ่ายแบบอยู่ตลอด- คนอื่นๆ อาจจะโผล่มาแล้วก็กลับไปแต่เขานี่มาทำงานในทุกขั้นตอนด้วยตัวเองจริงๆ
Henry Holland: อ้าว นั่นไม่ใช่เรื่องปกติหรอกเหรอครับ?! ผมนี่แบบ “คุณจะทำอะไรกับหน้าเธอ (นางแบบ) น่ะ ใครบอกว่าให้ทำแบบนั้น?” (หัวเราะ) ผมว่ามันมีบรรยากาศที่ดีอยู่รอบๆ ตัวเรานะ ทุกอย่างของการสร้าง
แบรนด์มาจากความสนุกสนานและขี้เล่น ผมว่ามันสำคัญที่จะรักษาบรรยากาศดีๆ ไว้ ทั้งที่ในสตูดิโอและเวลาถ่ายภาพนิ่ง สำหรับผมมันคือการบอกเล่าเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการสื่อความหมายผ่านการออกแบบฉาก การจัดแสง เสียงดนตรีที่เราเล่น ลุคเสื้อผ้า หน้า ผม เล็บ... ทั้งหมดเป็นองค์ประกอบสำคัญพอกับเนื้อผ้าเลยครับเพราะทุกอย่างก็คือการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์
“เสื้อผ้าที่ผมออกแบบค่อนข้างจะหลุดโลกและคนใส่ก็ต้องมีพลังเหมือนกับชุดที่ใส่ เราก็เลยต้องใช้นางแบบที่จะไม่ดูเหมือนกระต่ายน้อยวิ่งตัดหน้ารถ” – Henry Holland
Cher Webb: คุณมักจะมีไอเดียที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อนฉันมาแล้วคุณก็มีรายละเอียดของคอลเลคชั่นอยู่ในหัวตั้งแต่แรกแล้วว่าชุดนี้ใครใส่ คุณเลยรู้ทันทีว่าต้องเติมสีลิปสติก (หรือเปล่า) หรืออยากได้อะไรที่ดูสว่างเจิดจ้า – หรืออยากให้เหมือนช่วงซัมเมอร์ อย่างผิวชุ่มเหงื่อสำหรับ the Rave Cave ! (คอลเลคชั่นของHenry Holland ที่ได้แรงบันดาลใจจากบ้านที่มีพื้นที่กว้างสไตล์สเปนสำหรับ London Collections: Men this year) ซึ่งนายแบบทุกคนถูกทาตัวด้วยกลอส...
Henry Holland: มันเป็นอะไรที่ยากสักหน่อยที่จะทำให้ลุคนั้นออกมาดูเป็นแฟชั่นชั้นสูงและดูเป็นแฟชั่นของคนเมือง แต่ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า “เราอยากให้นายแบบดูเหงื่อชุ่มโชกไปทั้งตัวเลย!” แถมที่ตาก็ยังมีมาสคาร่าที่ปัดมาแล้วสามวัน ถ้าเป็นคุณจะทำออกมายังไง! (หัวเราะ) แต่ผมไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่ามันไม่เข้ากัน- เพราะผมว่าเราทุกคนเข้าใจเรื่องการแต่งงานดี บางครั้งถ้าเราให้พวกเขามีลุคแบบเดียวกันหมดจนแทบจะเป็นยูนิฟอร์ม จะเห็นชัดเลยว่านางแบบบางคนก็ไม่ได้ดูดีถ้าทาลิปสติกสีเข้มมาก ดังนั้นสำหรับคอลเลคชั่น autumn/winter ที่เราทำจึงให้นางแบบแต่ละคนมีลุคต่างๆ กัน: ทรงผมคนละแบบ ขนาดตัวก็ต่างกัน ความสูงก็ไม่ต้องเท่ากัน...
Cher Webb: ถูกต้องเลยค่ะ แทนที่จะให้เหล่าทหารนางแบบเดินเรียงแถวกันลงมา (จากเวที) ใส่ชุดยูนิฟอร์มเหมือนกันเป๊ะ คือหมายความว่าพวกเราพยายามจะคิดนอกกรอบกันสักนิดสักหน่อยน่ะค่ะ
Henry Holland: คือตอนนี้ผมรู้สึกว่าแฟชั่นทุกวันนี้ดูเป็นแบบนั้นเข้าไปทุกที ทั้งๆ ที่เรามีนางแบบนายแบบชื่อดังที่มีบุคลิกที่เจิดจรัสมากๆ ผมว่าเราน่าจะให้พวกเขาเปล่งประกายออกมาแทนที่จะจับมาแต่งชุดยูนิฟอร์มแบบยุคกลางปี 2000 ที่ทำลายความเป็นตัวตนของเด็กสาวไปจนหมดสิ้น เสื้อผ้าที่ผมออกแบบค่อนข้างจะหลุดโลกและคนใส่ก็ต้องมีพลังเหมือนกับชุดที่ใส่ เราก็เลยต้องใช้นางแบบที่จะไม่ดูเหมือนกระต่ายน้อยวิ่งตัดหน้ารถเพราะเสื้อผ้าพูดเองไม่ได้หรอกครับ เราต้องใช้คนสื่อออกมา
Cher Webb: ทุกวันนี้นางแบบสามารถบอกความต้องการของเธอได้ค่ะ เช่น “ทาไลน์เนอร์ให้หน่อยได้มั้ยคะ” หรืออะไรก็ตาม พวกเธอรู้สึกว่ามีสิทธิถามเพราะสองสามซีซั่นที่ผ่านมาค่อนข้างจะสบายๆ ไม่เคร่งครัดอย่างแต่ก่อน หรือพวกเธออาจจะขอไปเข้าห้องน้ำ พอเธอกลับออกมาฉันยังบอกดีไซน์เนอร์เลยว่า “นี่! คุณไม่คิดว่าเป็นฝีมือฉันจริงๆ ใช่ไหม”
Henry Holland: ในฐานะที่เป็นผู้ชายที่ออกแบบเสื้อผ้าผู้หญิงนะครับ คุณจำเป็นต้องมีผู้หญิงที่เป็นต้นแบบในชีวิต อาจจะเป็นวีรสตรีในประวัติศาสตร์หรือคนรอบตัวที่คุณรู้จักเป็นการส่วนตัวและเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้ เพราะมันสำคัญมากๆ ที่จะใส่บุคลิกภาพเหล่านั้นลงไปในโชว์ของคุณ อย่างเสื้อยืดนั่น ตอนแรกผมคิดแค่ว่าจะออกแบบสำหรับตัวเองกับเพื่อนๆ ใส่กันในกลุ่มเล็กๆ แต่คอนเซ็ปต์ของเสื้อมันพอดีตรงใจผู้คน เพราะตอนแรกทำขึ้นสำหรับพวกบ้าแฟชั่นแบบผม: เป็นอะไรที่เหมือนคุณพยายามปีนรั้วเข้าไปดูแฟชั่นวีคหรือบุกเข้าไปหาดาราที่คลั่งไคล้ ผมซีเรียสมากๆ ในวิธีการทำงานและผมก็ทุ่มเทและมีพลังอย่างมากด้วย แต่ผมมีพลังก็เพราะผมอยากจะให้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ได้สัมผัสถึงความสนุกสนานที่ผมใส่เข้าไป